คอยห่วงใย ใส่ใจและห่วงหา อยากอยู่ใกล้ได้สบตาไม่ไปไหน หากว่ามีเรื่องที่เดือดร้อนใจ คอยยิ้มให้กำลังใจส่งถึงเธอ ยามท้อแท้อ่อนแอและหวั่นไหว ไม่จากไกลอยู่ข้างเธอเสมอ ยามร้องไห้อ่อนล้าจะพบเจอ ฉันเคียงเธอตลอดทุกเวลา ยามเธอล้มจับมือฉันเอาไว้ จะฉุดให้ลุกขึ้นแม้หนักหนา ไม่ปล่อยให้อ้างว้างเลยสักครา คอยเยียวยาหากเธอเจ็บป่วยไป ทำแบบนี้ใช่ไหมเรียกว่ารัก ไม่รู้จักว่ารักเป็นแบบไหน รักแบบนี้ใช่ไหมหรือแบบใด รักใช่มั้ยความรู้สึกที่ให้เธอ
หากเจอะเจอ ปัญหา ฝ่าไม่ไหว ในหัวใจ วกวน สุดทนฝืน มีแต่ทุกข์ โศรกช้ำ ทั้งกล้ำกลืน แม้แรงยืน ให้ได้ แทบไม่มี ช่างมืดมน หนทาง มองไม่เห็น ช่างยากเย็น ชีวิต เป็นอย่างนี้ เดินต่อไป ไม่รู้ ทางใหนดี ยังไม่มี แสงใด ให้ส่องทาง เดินต่อไป ไม่เท่าไร ก็คงล้ม คงระบม เจ็บกาย ไปทุกอย่าง คงต้องหัน หลังกลับ ทับเส้นทาง ลองดูบ้าง ออกทางเข้า ที่เราเคย ชีวิตนี้ ไม่มี คำว่าสาย ยังไม่ตาย หายใจได้ อย่านิ่งเฉย ถือทิฐิ ไม่งอนัก มักหักเลย ถอยหน่อยเอย เชื่อเถอะหนา ไม่น่าอาย เริ่มนับหนึ่ง อีกครั้ง ต้องยังสู้ ประสบการณ์ รู้อยู่ ยังไม่สาย กลับทางเก่า เริ่มเดินใหม่ อย่างสบาย ตั้งเป้าหมาย ทางชีวิต ไม่ผิดทาง o มวลภมร o
ชายชาวอินเดียคนหนึ่ง ห้วงสองปีที่ผ่านมา ผู้คนจะพบเห็นจนชินตาว่า บนบ่าของเขามีหม้อดินใบใหญ่วางอยู่ข้างละใบ หม้อดินใบหนึ่งมีรอยร้าว ขณะอีกใบสมบูรณ์สวยงาม ไร้ที่ติ หม้อใบสวยสามารถบรรจุน้ำไว้เต็มเปี่ยมนับจากลำธารจนถึงบ้านเจ้านาย ขณะที่อีกใบหนึ่งนั้น เมื่อมาถึงปลายทางกลับเหลือน้ำแค่ครึ่งเดียว เท่ากับว่าชายผู้นี้ขนน้ำได้เที่ยวละหม้อครึ่งอยู่ทุกครั้ง แน่ล่ะ...หม้อดินใบสวยย่อมภาคภูมิใจในตนเองที่ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วน ส่วนหม้อดินใบร้าว นอกจากอดไม่ได้ที่จะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในความไม่สมประกอบของตนเองแล้ว มันยังรู้สึกผิดกับการทำหน้าที่ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยอีกด้วย หลังจากสองปีเต็มที่แบกความทุกข์ระทมขมขื่นนั้นเอาไว้ วันหนึ่ง มันจึงตัดสินใจเอ่ยกับคนหาบน้ำตรงลำธารว่า "ฉันรู้สึกละอายใจเหลือเกิน..ฉันอยากขอโทษท่าน.. ตลอดสองปีมานี้ ฉันทำงานให้ท่านได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เนื่องจากเจ้ารอยร้าวบนตัวฉันมันทำให้น้ำรั่วไหลไปตลอดทาง" เมื่อฟังเช่นนั้นแล้ว คนขนน้ำก็พลอยรู้สึกเสียใจไปด้วย และแล้วเขาก็พูดว่า "เอาล่ะ..ระหว่างทางที่เราจะเดินกลับไปบ้านเจ้านาย ฉันอยากให้เธอสังเกตดอกไม้สวยๆข้างทางเดินสักหน่อย เธอไม่ได้สังเกตหรอกหรือว่า ทำไมดอกไม้ป่าเหล่านั้นถึงได้งอกงามเฉพาะฝั่งที่ฉันแบกเธอเท่านั้น ทำไมมันไม่ขึ้นอีกฟากหนึ่งด้วยล่ะ.. นั่นเป็นเพราะฉันได้ตระหนักในข้อจำกัดของเธอ จึงอาศัยเงื่อนไขนี้เพาะเมล็ด
...ส่งใจสู่ด้ามขวาน... เสียงกระสุนสาดระห่ำกระหน่ำคลั่ง หาหยุดยั้งถาโถมเข้าโหมล่า กลางใจเมืองระอุไอในปัตตา ท่ามประชาแผ่วเสียงเพียงบางเบา ...มโนภาพเลือนลางร่างคลุกฝุ่น หวนละมุนไอท้องนาแลป่าเขา เพลงพิญแคนโหวยแว่วดังแผ่วเบา รวยรินเล่า..ลมหายใจในกายา ..หลับเถิดหนาทหารข้า..ผู้กล้าแกร่ง อย่างระแวงสิ่งใดในปราถนา เจ้าพลีชีพเพื่อชาติกษัตรา ท่าม..นคราที่รุ่มร้อนด้วยฟ่อนไฟ อย่าห่วงเลยคนอยู่หลังจะฝังจิต แม้ชีวิตพลีพร้อมจะยอมให้ เพื่อสยามอาณาเขตประเทศไทย มิหวังใดกว่าจงรัก..และภักดิ มโนภาพเลือนลางร่างคลุกฝุ่น ไอละมุนจากห่วงใยไทยที่นี่ ส่งข้ามโขดหินผาฝ่านที ถึงชาตรีชายชาญทหารไทย ......เหล่าทหารกรำกล้าฝ่าหาญหัก ......ไทยตระหนักคำนึงซึ้งบ้างไหม ......ทุกวันนี้ไทยผองเป็นสองไทย ......หากร่ำไรเพลงชาติ....ขาดคนฟัง ถูกใจ · · แชร์
จะหวาดหวั่นไปไยภัยเผชิญ มัวขัดเขินทำไมไม่เข้าท่า เป็นมนุษย์สุดแต่กรรมจะนำพา สู้อุตส่าห์ประเสริฐเกิดเป็นคน ทุกเรื่องที่ติดขัดจิตขัดข้อง แม้มิลอง ฤๅ จะประสบผล เจอะปัญหาคราใดให้อดทน แล้วคิดค้นหนทางสว่างเดิน ชั่วชีวิตปรัศนีย่อมมีบ้าง ทะเลกว้างยังมีที่ตื้นเขิน ตั้งสติแกร่งกล้าท้าเผชิญ โลกเชื้อเชิญแล้วหนาอย่าหวั่นใจ เมื่อแสงแดดแผดจ้าเริ่มปรากฏ หมอกที่บดบังทางเริ่มจางใส เมื่อหนทางทอดยาวจงก้าวไกล ลุกขึ้นใหม่เถิดเพื่อนพ้องลองอีกที
ทุกคนมีสิทธิ์ผิดพลาด แม้แต่ตัวเราเอง อย่าซ้ำเติมผู้ที่ผิดพลาด แต่ควรให้กำลังใจ เพราะถ้าเป็นเรา ก็ต้องการกำลังใจ เช่นกัน เห็นคนล้มแล้วอย่าข้าม หรือกระทืบซ้ำ ต้องช่วยประคองให้เขายืนขึ้น และเดินต่อไป สำนวนไทย : ช้าเป็นการ นานเป็นคุณ หมายถึง : ค่อยๆคิด ค่อยๆทำ ดีกว่ารีบร้อนทำ
ื แกร่งกล้าพอหรือไม่ในวันนี้ พร้อมฤดีฝ่าฟันวันหน้าไหม พร้อมจะเดินในเส้นทางอย่างมั่นใจ หรือจะไม่คิดค้นหาคุณค่าตน ยืนขึ้นสิ...ถ้าล้มลงตรงทางเปลี่ยว อย่ามัวเหลียวหาใครในแห่งหน ด้วยตรงนั้นว่างไร้ในผู้คน ไร้ผู้สนใจช่วยด้วยยินดี ช่วยตัวเองเท่าที่ดีที่สุด ทุกทุกจุดเตือนใจไว้ในวิถี รวมแรงขึ้นเพื่อก้าวเท่าที่มี ก้าวก่อนที่เธอจะล้ม ลงอีกครา ก้าวไปด้วยความตั้งมั่นอย่าหวั่นไหว ด้วยหัวใจด้วยพลังที่หวังหา สิ่งต่างต่างที่ฝันไฝ่จะได้มา อยู่ที่ว่าเธอต้องกล้าต้องฝ่าฟัน..... ละอองดาว....
บ้าก็บ้าสิวะ..!!
คนดีๆ กับคนบ้า..หากว่ากัน
มันก็อยู่ ใกล้ๆกัน นั่นแท้หนอ..
ชอบแบบไหน ? เขาก็ว่าเราบ้าบอ
ฉะนั้นขอ เล่าความบ้า..อา ลองฟัง ! " บ้างาน " วันๆทำ จนค่ำมืด มีถมถืดหวังสองขั้น งานไม่ยั้ง " บ้ายศ " บ้าเครื่องแบบแถบตราตั้ง เลิกงานยังสวมใส่ไม่ถอดวาง ! " บ้าเงิน " เพลินนับแบ๊งค์ แม่งรวยจัด สารพัดสารพัน ฉันไม่ว่าง หาแต่เงิน เงินเงินเงิน จนเกินกลาง ถึงคราวตายไปแต่ร่าง..ช่างสมเพช ! “ บ้าบอล “ “บ้ามวย “ ..อยากรวยนั่น จ้องแต่จอ แทงไม่อั้นปั่นสะเด็ด “ บ้าหวย “ รวยแน่หนาน้ำตาเล็ด หวยออกเสร็จ ..โดนกินรวบควบกับหนี้ ! “ บ้าเหล้า “ เมาตลอดตอดแต่ก๊ง ตับแข็งคง มาเยือนไม่เบือนหนี “ บ้าสวย “ หมอช่วยเสริมเติมดูดี ปลอมทุกที่ ..แต่หนีวัยไปไม่พ้น ! “ บ้าอำนาจ “ ฉกาจนักหนักปัญหา มุ่งเข้ามา โกยโกงโยงเงินผล คอรัปชั่น กันเบ็ดเสร็จกิเลสล้น ทิ้งคนจนรากหญ้าอ้าปากรอ.!. “ บ้าเฟซ “ “ บ้าโพสต์ “ ..กดแต่ไล้ค์ เปลี่ยนรูปใหม่ใส่ความเห็นเป็นตัวพ่อ ไม่ยอมหลับยอมนอน ค่อนดึกรอ ใครเข้ามาอีกหนอ ? ขอคลิ๊กดู ! “ บ้าละคร “ ตอนหลังข่าวเฝ้าไม่หน่าย ชมนางเอกด่านางร้าย จนแสบหู “ บ้าการเมือง “ ก็ร้ายแรงแบ่งมึงกู ทั้งที่อยู่บ้านเดียวกัน.. สุดงันงง ! “ บ้าตีแบด “ ..ก็บ้าหนักไม่พักยั้ง บอกเจ็บหลังยังตีมั่ว จนตัวโก่ง “ บ้าปั่น “ จักรยาน ปั่นทางโล่ง ช่างปลอดโปร่งใกล้หรือไกล..ไปโลดเลย ! จะคนดีหรือคนบ้า.. อย่าว่ากัน ชอบของใครของมัน นั
..นาทีของความสับสนในใจ มันเป็นอะไรที่..ไม่สามารถบรรยายออก ยากเย็นเหลือเกิน..ที่จะเอ่ย - สักคำบอก ฉันรู้.. รู้โดยไม่ต้องคัดลอกความรู้สึกนั้น..จากเธอ ...สักคำสิ..บอกกันได้ไหม หนึ่งคำ จากความเป็นไป..ใต้ผืนฟ้าเหงา-เก้อ ยังมีฉันนะ...ที่พร้อมจะรับฟังเธอ หากเพียงคน-คนนี้ที่เคยเจอ...เธอไม่ได้หลงลืมไป .... ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่นี่ นะครับ..
แด่เพื่อนรักคนดีที่ผิดหวัง ขอให้เธอมีพลังต่อสู้ไหว เก็บผ้าเช็ดหน้าที่ใช้แล้วโยนทิ้งไป แม้คราบน้ำตาอย่าเหลือไว้ให้เห็นเลย ฉันรู้ดีว่ามันคงทำยากอยู่ และไม่รู้ว่าเธอจะทำมันได้ไหม แต่ที่รู้ว่าถ้าทำได้เธอจะต้องดีใจ เมื่อเวลาผ่านพ้นไปจะรู้สึกดี อยากให้เธอลองพิสูจน์ดูสักตั้ง รวบรวมพลังทั้งกายใจให้คงที่ ให้เธอได้ตั้งสติ ไตร่ตรองให้ดี นับหนึ่งไปถึงสิบ หลับตาปี๋ แล้วผ่อนคลาย เมื่อลืมตามาอีกครั้งคงดีขึ้น ขอให้ตื่นจากห้วงภวังค์หมดทั้งหลาย ขอให้เธอได้มีความสุขทั้งใจกาย และสุดท้ายกลับเป็นตัวของตัวเอง
รู้ว่าเธออาจหน่ายในหลายสิ่ง จนอยากทิ้งอยากหนี...ไปที่อื่น อยากบอกลาประสบการณ์วันและคืน อยากบอกลาความหวานชื่น ในวันวาน อยากบอกลาอุดมการณ์เคยฝันใฝ่ แล้วไปสร้างฝันใหม่ที่แสนหวาน อยากบอกลาความท้อ ทรมาน ที่ไม่สนองความต้องการได้เพียงพอ เธอเป็นเพชรที่มีค่ามหาศาล ใครใครก็ต้องการ ก็ร้องขอ แต่เธอจ๋า อยากเพียงรั้ง ให้เธอรอ อย่าเพิ่งทุกข์ อย่าเพิ่งท้อ ในวันนี้ ย้อนมองวันวาน นั้นสักนิด วันที่เริ่ม ชีวิต กับที่นี่ จากใจนิด มือน้อย ค่อยค่อยมี สร้างเป็นสิ่งดีดี ได้เพราะใคร ก็เพราะไฟเพราะฝันอันเปี่ยมค่า ก็เพราะรักศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ ฝันตรงนี้ จะถูกสร้าง ได้อย่างไร หากพรุ่งนี้ และต่อไป ไม่มีเธอ? ก็เพราะไฟเพราะฝันอันเปี่ยมค่า ก็เพราะรักศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ ฝันตรงนี้จะถูกสร้าง อย่างแกร่งไกร หากพรุ่งนี้ และต่อไป ... ยังมีเธอ
จุดหมายที่อยู่ข้างหน้า มันคงไม่ไกลเกินคว้าใช่ไหม ถ้าสู้ด้วยพลังแห่งความตั้งใจ สิ่งที่ฝันไว้คงได้สักวัน อย่าเพิ่งท้อถอยง่าย ง่าย ยังมีเพื่อนมากมายร่วมทางฝัน จุดหมายปลายทางก็ถึงสักวัน ณ ที่ตรงนั้นเราคงสมใจ มันคงไม่ยากเท่าไหร่หรอก ก็แค่บอกตัวเองว่าทำได้ จุดหมายคงไม่ไกลจนเกินไป แล้วเราจะไปถึงได้อย่างแน่นอน
เหมือนฝูงปลาพากายมาว่ายแหวก ใต้สาแหรกแหวกว่ายในละหาน หลบพักคลื่นครืนเครงในเพรงกาล เปรียบร่มลาน...บ้านเก่ามาเกลากลอน หัดต่อเสียงเรียงคำมานำต่อ ถูกผิดพอ...อภัยในอักษร ขอเพียงจิตคิดใฝ่แม้ไร้พร สวรรค์อ้อน...เอื้อนได้(อย่า,ไม่)อายใคร แค่หาคำนำโยงพยางค์วาง นึกโครงร่างสร้างบทกำหนดไว้ สัมผัสผูกถูกผังทั้งนอกใน ที่เหลือ “ใจกับจิต” พิชิตกลัว สาแหรกนี้มีขึ้นด้วยปีกฟ้า อัลมิตรา ดุแล แม่ทูนหัว โลกลับแลแห่งกลอนอักษร พัว- -พันรักทั่ว โลกศิลป์ ในถิ่นไทย หนึ่งในเวปกลอนดีที่เป็นหนึ่ง สายใยซึ้ง...ตรึงตราอัชฌาสัย ใช่เพียงเวป...เสพอ่านสำราญใจ เพราะอะไร....ไม่รู้ต้องดูเอง สมัครง่ายย้ายยากไม่อยากจบ อุ่นอวลอบไมตรี...มิข่มเหง แอบกระเซ้าเย้าแย่แลบรรเลง เหมือนบทเพลง...ร้องร่ำเป็นทำนอง ตระเตรียมงานการเหนื่อยแล้วเมื่อยล้า เพียงพักพา กมลที่หม่นหมอง หอบอารมณ์จ่มฝันมากลั่นกรอง เบิกบ้านช่อง ห้องหับสดับจินต์ (จินตนา) ตะนาการแห่งศรี...วลีถ้อย เพื่อเพียงปล่อย...ลวดลายระบายลิ้น จะยอกจิก...หยิกกัด...ก็ชัดยิน ยิ้มถ้วนถิ่น...ทุ่งกานท์ในบ้านกลอน @@@@@@@@@@@@ ปีกฟ้าสู้ สู้..... ปีกฟ้าสู้ตาย.... ปีกฟ้ามีกาย.... เป็นลายพาดกลอน ปีกฟ้าสู้ สู้ ปีกฟ้าอย่านอน.... จงสร้างบ้านกลอน ให้พวกเราเฮย...อิอิ ในนามของสมาชิกบ้านกลอน(สมอ้าง กิกิ) ขอเป็นกำลังใจ ให้ปีกฟ้า แอนด์ ดิ อัลมิตรา ขอ....อย่ายอมแพ้... อย่าอ่อนแอ แม้จะ
กลางห้วงหาวดาวดวงร่วงจากฟ้า บนยอดหญ้าน้ำค้างพร่างพรายฝัน หลับหรือตื่นคืนพ้อรอตะวัน ยังยืนยันบากบั่นไม่ปันใจ ลมภูเขาจู่โจมโถมทายทัก แม้หน่วงหนักทนต่อพอหลับใหล รัตติกาลร้าวรานคงผ่านไป อาจหลงเหลือพิษไข้ผ่าวในทรวง สิ้นแสงดาวราวฟ้าบูรพา เป็นสัญญาไถ่ถามความเป็นห่วง เพียงพร่างพรายเคลื่อนคล้ายสายลมลวง มีคนทวงหนี้ค้างที่ร้างเลือน อุษาสางกลางไพรที่ดายเดียว หมดเวลาท่องเทียวคนไร้เพื่อน เขาไม่เคยฝากคำมาย้ำเตือน จึงดูเหมือนไร้ค่าประสาจน